|
 |
28 ธันวาคม 2547 |
อาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นอาทิตย์วิปโยครับที่ภาค
ใต้ฝั่งอันดามันที่โดนคลื่นยักษ์ถล่ม เป็นความ
รุนแรงจากภัยธรรมชาติที่ทำให้คนอย่างพวก
เราตัวเล็กลงไปเยอะครับ ผมไปภูเก็ตครั้งสุด
ท้ายเมื่อกลางปีก่อนและมีความรู้สึกว่าชาย
หาดและทะเลแถวนี้เราสงวนให้นักท่องเที่ยว
ต่างชาติจริงๆ เพราะค่าที่พักแพงมาก ที่ผม
ไปตอนนั้นมีวิกฤตโรคซาร์สร้างความเสีย
หายกันไปมาก คนน้อยค่าที่ค่าเดินทางพักถูก
เราก็ไปช่วยกันใช้ก็ยังรู้สึกโชคดีเลยครับ
เพราะธรรมชาติทางทะเลที่นี่สวยงามจริงๆ
ครับ คราวนี้ธรรมชาติคงโดยคลื่นยักษ์ทำ
ลายไปเยอะครับ ชีวิตคนเสียไปร่วมสี่
หมื่นคน บ้านเราเสียไปคงร่วมสองพันคน
น้ำตาคนใต้ไม่แห้งเสียทีที่พังงาแล้วที่นี่ตาย
ไปร่วมพัน รูปนี้ทะเลพังงาเห็นแล้วคิดถึง
ครับ
|
|
 |
21 ธันวาคม 2547 |
ย่านชินจูกุในโตเกียวคนมากจริงๆ ครับ ช่วง
ที่ผมไปเยือนนั้นมืดเร็วมากห้าโมงเย็นก็มืด
แล้วสิ่งหนึ่งที่แปลกตามากคือตรงทางม้าลาย
จะกว้างมากๆ และมีคนยืนรอข้ามถนนเยอะ
มากๆ พอได้สัญญาณข้ามได้ คนเป็นร้อยๆ
จะออกเดินข้ามถนนสวนกัน พวกเรารู้สึก
เหมือนเป็นการยกพวกตีกันเลยครับ เมือง
ญี่ปุ่นคนจะสุภาพมาก แต่ไม่พูดภาษาอังกฤษ
น่าเที่ยวแต่ไปเที่ยวเองคงไม่ไหว ที่เหมือนเรา
อีกอย่างผมว่าของกินข้างทางหาง่ายมาก ไม่
ว่าโอเด้ง หรือราเมนสนนราคาก็จากสองร้อย
กว่าบาทขึ้นไป ผมว่าถูกกว่ายุโรปเสียแล้ว
การชอปปิ้งในญี่ปุ่นต้องมีการตรวจสอบราคา
ก่อนเพราะดีไม่ดีแพงกว่าซื้อที่เมืองไทยอีก
ส่วนพวก accessories ที่หายากๆ นั้น
ซื้อได้ครับเพราะจะมีให้เลือกเยอะหาซื้อที่นี่
ไม่ได้ คนเยอะดีเลยเอามาแบ่งกันดูครับ
|
|
 |
7 ธันวาคม 2547 |
การออกรอบเล่นกอล์ฟที่ญี่ปุ่นมีประเพณีปฏิบัติ
ที่แปลกกว่าประเทศอื่นๆ มาก อัตรานักกอล์ฟ
ต่อปริมาณประชากรของญี่ปุ่นจะสูงมากที่สุด
ในโลก จึงไม่น่าแปลกใจที่การจองเวลาออก
รอบที่นี่ต้องเตรียมการล่วงหน้าพอสมควร
เมื่อได้เวลาออกรอบแล้วต้องมาตรงเวลาน่ะ
ครับที่หลุม 1 จะไม่มีก๊วนมากๆ ล้อมแท่นที
เหมือนบ้านเรา และเมื่อครบ 9 หลุมสตาร์ท
เตอร์ก็จะบอกเวลาออกรอบใน 9 หลุมหลังซี่ง
ต้องพักประมาณ 1ชั่วโมง จะเดินตีต่อไม่ได้
น่ะครับ ที่นี่จะมีแคดดี้ 1คนต่อก๊วนซึ่งจะมี
รถขนถุงกอล์ฟตามรูป รถคันนี้จะบังคับด้วย
รีโมทโดยแคดดี้ให้วิ่งไปตามทางรถซึ่งฝั่ง
สายนำทางไว้ใต้ดินแล้ว ทำให้แคดดี้สามารถ
ดูแลนักกอล์ฟได้มากขึ้น ในสนามว่าแปลกตา
ในห้องแต่งตัวซิครับญี่ปุ่นเดินกันโทงๆ เต็ม
ไปหมด แต่ถ่ายรูปมาฝากกันดูไม่ได้ครับ |
|
 |
29
พฤศจิกายน 2547 |
ลอยๆ
กระทง เพื่อนๆ ที่คบกันมานานๆ จะรู้
ว่าผมไม่ค่อยมีความหลังอะไรกับเทศกาลนี้
เท่าไหร่รวมถึงเทศกาลอื่นๆ ที่มีคนออกมา
เที่ยวกันมากๆ เพราะผมไม่ชอบบรรยากาศ
เบียดเสียดยัดเยียดแย่งกันกินแย่งกันอยู่ ช่วง
ปีหลังๆ ในเทศกาลนี้ผมจะไปร้านประจำผม
ที่อยู่ใกล้บ้านคือสวนอาหารนาทอง ซึ่งผมจะ
จองล่วงหน้าเป็นเดือนครับ เทศกาลลอยกระ
ทงจะเป็นงานกลางคืนผมเห็นคนที่ถ่ายรูป
ทั่วๆ ไปแล้วกลุ้มใจครับเพราะมักจะยกถ่าย
ภาพวิวไกลๆ เพราะแฟลชที่ติดมาจะมีระ
ยะได้แค่ 3-5 เมตรเองหล่ะครับ ภาพแบบ
นี้ต้องใช้ขาตั้งและตั้งเวลาการถ่ายให้หน้า
กล้องเปิดนานพอกับถ้าไม่มีสายชัตเตอร์ก็
ต้องตั้งเวลาถ่ายครับเพื่อกันมือไหว ผมใช้
แก้วตั้งกล้องถ่ายได้ภาพนี้มาแบ่งกันดูครับ |
|
 |
24
พฤศจิกายน 2547 |
เวลาไปเชียงใหม่แล้วไปดอยอินทนนท์อย่า
ขี้เกียจแวะน้ำตกแม่ยะน่ะครับ เพราะผมมัก
จะแวะน้ำตกวชิรธารแล้วนึกเอาเองว่าพอ
แล้ว สำหรับการเที่ยวน้ำตก ซึ่งผมเข้าใจผิด
ทางเข้าน้ำตกแม่ยะจะอยู่เลยทางเข้าดอยอิน
ทนนท์ไปและทางจะไม่ดีนักมีขรุขระเป็น
ช่วงๆ กว่าจะถึงที่จอดรถก็เมื่อยขบกันพอ
ควร แต่ว่าทางเดินไปน้ำตกไม่ไกลนักเดิน
สบาย และพอถึงตัวน้ำตกก็ต้องยอมรับเลย
ครับว่าไม่เสียแรงจริงๆ น้ำตกแม่ยะดูแปลก
ตากว่าน้ำตกอื่นที่ผมเคยไปเยือนมาเพราะ
ตัวน้ำตกสูงมากไม่แพ้น้ำตกเหวนรกแต่ลัก
ษณะลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ ลงมาจนถึงเบื้อง
ล่างนั้นดูสวยงามจริงๆ ครับเขาจัดเป็นน้ำ
ตกสวยหนึ่งในห้าของไทย (แน่นอนรวม
น้ำตกเหวนรกที่ผมชอบด้วย) เอารูปมา
แบ่งกันดูแล้วอย่าลืมแวะไปเที่ยวน่ะครับ |
|
 |
15
พฤศจิกายน 2547 |
ผมว่าอาหารบนโต๊ะที่มีอันตรายที่สุดเมนูหนึ่ง
ในโลกน่าจะได้แก่จานที่อยู่ในรูปนี้ครับ เจ้าอา
หารจานนี้คือปลาปักเป้าหรือที่คนไทยเรียกกัน
ว่าปลาเนื้อไก่ เจ้าปลาตัวนี้จะมีเส้นพิษซึ่งร้าย
แรงมากถ้าทำไม่ดีกินเข้าไปถึงตายคาชาม
ข้าวไปเลยครับ คนญี่ปุ่นถือเป็นอาหารขึ้นโต๊ะ
หรูซึ่งคนทำต้องได้รับใบอนุญาตน่ะครับ ทำ
มั่วๆ กินกันเองไม่ได้ ดูผ่านๆ แล้วจะขนาด
ใกล้เคียงและรูปร่างคล้ายปีกไก่ท่อนบนเลย
ครับและตัวเนื้อก็ขาวเหนียวเหมือนเนื้อไก่
เลยครับ คนเรานี่พิเรนทร์น่ะครับมีไก่ให้กิน
ดีๆ ไม่ชอบกลับชอบเสี่ยงภัยเปิบของอัน
ตรายแบบนี้ ซึ่งสำหรับผมแล้วถ้าให้จ่ายเงิน
ซื้อกินเองคงไม่เอาด้วยหล่ะครับ ผมไปญี่
ปุ่นพอถึงปุ๊บเขาก็พาไปทานข้าว พอถึงเจ้า
ปลาปักเป้าผมก็ถ่ายมาแบ่งกันดูครับ |
|
 |
8
พฤศจิกายน 2547 |
ผมเพิ่งกลับจากญี่ปุ่นก่อนไปผมไม่มีโปร
แกรมไปภูเขาไฟฟูจิยังโดยแซวอยู่เลยครับ
ว่าไปไม่ถึงญี่ปุ่น และแล้วตอนขากลับอากาศ
ดีก็ถือเป็นโชคดีมากที่ได้เห็นภูเขาไฟฟูจิชัด
แจ๋วทะลุเสียบเมฆ ญี่ปุ่นไม่เหมาะกับผู้ที่จะ
เดินทางไปเที่ยวเองถ้าท่านไม่รู้ภาษาญี่ปุ่น
ภาษาอังกฤษที่นี่หาทำยาหยอดตายากจริงๆ
ครับ แถวชินจูกุที่เป็นย่านคนเดินและการ
ค้ายังเอาตัวรอดได้ยากเลยครับ แต่ญี่ปุ่นก็
มีอะไรที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองมากกว่า
ที่ผมคิดไว้จนผมต้องวางแผนในใจไว้ว่า
จะต้องกลับมาเยือนอีกแต่มากลับทัวร์แน่
นอนครับ ภาพนี้เข้าใจว่าผู้ที่ชุมเขาอยู่บน
ดินคงไม่เห็นยอดเขานี้ เราบินผ่านไม่ถึง
สาม นาทีได้ภาพสวยงามไม่น่าเชื่อแบบนี้
ก็เลยเอามาแบ่งกันดูครับ |
|
 |
1
พฤศจิกายน 2547 |
ผมเข้าใจเสมอว่ารูปของแบม
แบม ลูกสาวคน
เล็กของผมมีน้อย เพราะจำได้แต่ตอนเจ้าบูม
เกิดจำตอนแบมเกิดได้น้อยกว่า ปรากฎว่าผม
มีรูปแบมมากพอควรครับ รูปนี้ผมจำไม่ได้ว่า
ถ่ายไว้ได้อย่างไรแต่แบมเพิ่งห้าวันเองครับ
น่าจะเพิ่งกลับมาคอนโดบูมก็เพิ่งสามขวบ
ยังอ้วนอยู่เลย พวกลูกผมดูง่ายครับยิ่งเลี้ยง
ยิ่งโตยิ่งผอมครับทั้งคู่เลย บูมเป็นเด็กกิน
ง่ายน่ะครับยังไม่ยอมอ้วนเลย รูปนี้ถ่ายมา
7 ปีแล้ว อีกไม่กี่ปีก็จะโตเป็นหนุ่มสาวกัน
หมดแล้ว คิดแล้วใจหายในวันที่เขาเพิ่งเกิด
เรายังหัวหมุนกันอยู่เลยไม่รู้จะเลี้ยงกันอย่าง
ไรทำไปทำมาตอนนี้โตวิ่งมาขอเงินซื้อขนม
กันได้แล้ว เห็นรูปเก่าๆ ก็อดคิดถึงอดีตไม่ได้
ครับ เลยเอามาแบ่งกันดูครับ |
|
|
|