หนังเปิดตัวที่ โตโต้ตอนกลางคน( Jacques Perrin )ได้รับข่าวการตายของเพื่อน
ต่างวัยจากบ้านเกิดที่ซิซิลี แล้วหนังก็พาเราย้อนกลับไปเก็บเกี่ยวความรู้สึกร่วม
กับโตโต้ตั้งแต่วัยเด็กที่หลงรักหนังอย่างหัวปักหัวปำ จนเป็นวัยรุ่นและจากบ้าน
เกิดมาเป็นผู้กำกับดังในกรุงโรม

นักบวชที่คอยเซ็นเซอร์ฉากจูบในหนังที่จะเข้าฉายในหมู่บ้าน ชาวบ้านที่
รอคอยจะได้เห็นจูบครั้งแรกบนจอภาพยนต์ ความผูกพันของคนในหมู่
บ้านทั้งกวนหัวแม่เท้า ความรัก ควมหยาบคายของชาวบ้านนั้นถูกนำ
เสนอผ่านการทำตัวของแต่ละคนในตอนชมภาพยนต์ได้อย่างหลักแหลม
มีบรรยากาศของหนังดังที่ฉายตั้งแต่ Citizen Kane, หนังของคูโรซาว่า
ทำให้เรารับทราบถึงคุณค่าที่ยิ่งใหญ่แม้จะเป็นช่วงสั้นๆ ในชีวิตประจำ
วันที่ภาพยนต์นั้นๆ มีให้กับชาวบ้านที่อยู่ชนบทในหนังเรื่องนี้ได้ดี

โตโต้ในวัยเยาว์ (Salvatore Cascio) ที่ขาดพ่อกับอัลเฟรโด้ (Philippe Noiret)
คนฉายหนังประจำหมู่บ้าน สร้างสานความสัมพันธ์กันได้อย่างน่าอบอุ่นใจจน
ย่างเข้าวัยรุ่น รักครั้งแรกของโตโต้ในวัยหนุ่ม (Marco Leonardi) ที่ร้อนแรงใน
ความรู้สึกนั้น เติมเต็มให้ Nuovo Cinema Paradiso นั้นสมบูรณ์อย่างไม่มีที่ติ

ถ้าจะถามว่าฉากจูบในหนังเรื่องใดซาบซึ้งที่สุดในประวัติศาสตร์การสร้าง
ภาพยนต์ ก็ต้องบอกว่าฉากจูบในตอนจบของหนังเรื่องนี้หล่ะครับ ที่อัลเฟร
โด้ที่เสียชีวิตไปแล้วทิ้งฟิลม์หนังไว้ให้โตโต้วัยกลางคนเปิดดูปรากฎว่าเป็น
ฉากจูบๆๆๆๆ ในหนังเก่าซึ่งโดนเซ็นเซอร์โดยนักบวชในตอนต้นเรื่อง
ที่นำมาตัดต่อเรียงกันให้โตโต้ได้ดู จบอย่างเต็มอิ่มในอารมณ์และทำให้
หวลให้ถึงความหลังในวัยเยาว์ครับ

ดนตรีประกอบของ Ennio Morricone ก็เพราะมากเป็นที่คุ้นหูเพราะหนังโฆษณา
นำไปใช้กันมาก และได้ข่าวว่ามีการนำมาตัดต่อใหม่ให้หนังยาวขึ้นจาก 2 ชั่วโมง
เพิ่มอีก 51 นาที และเริ่มมีวางตลาดที่อเมริกาแล้วคอหนังตัวจริงต้องไม่พลาดหนัง
เรื่องนี้ครับ