กลับบ้านคุณทักษิณ

ก่อนเดินทาง/ข้อควรรู้

เดินเที่ยวในโรม
มิลานเมืองแฟชั่น
ถึงเวนิซ
Murano และ Rialto
ติดต่อทักษิณจ้า
Venice เมืองแห่งลำคลอง

ปลายทางนักท่องเที่ยว กระจกมูราโน่สวยดี กับค่ากินอยู่ที่แสนแพง

สถานีรถไฟที่เวนิซ

เวนิซเป็นเมืองที่นับเป็นจุดหมายปลายทางของเราในการเดินทางครั้งนี้ ผมอยากเห็นเมืองที่
ไม่ใช้รถใช้เรือแทนและมีความเก่าแก่ยาวนาน เดิมเวนิซเป็นเมืองการค้าเหมือนสิงคโปร์เพื่อน
บ้านเรา เมื่อวิธีการค้าขายเปลี่ยนไปทำให้เวนิซต้องเปลี่ยนสภาพไปด้วย แต่อดีตอันยาวนาน
ทำให้เมืองที่เคยมั่งคั่งแห่งนี้ยังคงไว้ซึ่งสิ่งปลูกสร้างอันสวยงามและดูร่ำรวย ผมว่าเวนิซทุก
วันนี้เพิ่งการท่องเที่ยวอย่างแท้จริงเลยครับ ลองนึกถึงเวนิซที่ไม่มีนักท่องเที่ยวซิครับ ผมว่า
เมืองนี้จะอยู่ในภาวะตกอับทันทีเลยน่ะครับ แต่สิ่งที่ผมพบในเวนิซก็เหมือนที่อื่นๆ ในอิตาลี
หรือยุโรป คือปัญหาเรื่องห้องน้ำ เชื่อไหมครับตั๋วนักท่องเที่ยว (Venice Pass) มีแบบ
รวมห้องน้ำให้เลือกด้วย ราคาก็แพงขึ้นพอตัวแต่ถ้าปัญหาสุขภาพก็ซื้อเถิดครับ

พวกเราออกจากมิลานแต่เช้านั่งรถไฟราวๆ สามชั่วโมงก็เดินทางข้ามทะเลมาสู่เวนิซที่เป็น
ดินดอนปากแม่น้ำ พอลงจากรถไฟเราก็ต้องอาศัยเท้าหรือเรือเท่านั้นในการเดินทางในเวนิซ

ป้ายเรือเมล์ง่ายเหมือนรถไฟฟ้า

นักท่องเที่ยวแบบเราควรนั่งเรือเมล์ครับนอก
จากนี้เขามีเรือแท๊กซี่และกอนโดล่าซึ่งเทียบได้
กับรถลีมูซีน ตั๋วเรือมีทั้งแบบเที่ยวเดียวหรือ
เหมาวัน เหมาสามวัน หรือจะซื้อ Venice
Pass อันเป็นตั๋วท่องเที่ยวรวมค่าเข้าสถาน
ที่สำคัญต่างๆ ไว้ ต้องศึกษาดีๆ น่ะครับถ้า
ไม่มีเวลาเดินหลายๆ ที่อาจจะไม่คุ้ม พวกเรา
ซื้อตั๋วสามวันสี่คนเกือบร้อยยูโรก็ราวๆ สี่พัน
กว่าบาท แพงพอดู

เรื่องที่พักผมจองที่สถานีรถไฟแลจากการ

เรือเมล์ที่เวนิซ
โรงแรมที่เราพักมีลานกว้างด้านหน้า

เดินเช็คก็พบว่าเชื่อถือได้ราคาถูกทำเลดีเรา
ได้วันล่ะ 120 ยูโรแพงที่สุดของการมาเที่ยว
นี้ก็คูณห้าสิบเป็นบาทดูได้ครับ ห้องนอนได้
สี่คนมีสี่เตียงพร้อมอาหารเช้าแบบยุโรป เรา
มาถึงบ่ายมากแล้วเลยว่าจะไปที่ที่สวยที่สุด
แห่งหนึ่งในยุโรปคือ square ที่ซานมาร์
โค โรงแรมเราอยู่ใกล้สถานีรถไฟก็เทียบ
ได้เป็นปากตรอก เวนิซมีแกรนด์คาแนลล์
เป็นตรอกใหญ่ ซานมาร์โคจะอยู่ปลายตรอก
เลยครับ เรือเมล์ที่นี่มีหลายสายจะขึ้นต้องดู
ดีๆ น่ะครับเพราะบางลำจอดทุกป้ายจะใช้

ทางเดินที่ซานมาร์โค
เวลาเป็นชั่วโมงเลยครับเช่นผมเองครับ เพราะเจ้าเรือหวานเย็นจะมาบ่อยและเรายังตื่นตา ตื่นใจกับเวนิซอยู่ก็นั่งเรือเที่ยวดูสถานที่น่าสนใจเรื่อย
เปื่อย จึงยังไม่เบื่อ (แต่พอวันหลังเราก็เบื่อมากเหมือนกันครับ) แล้วเราก็มาถึงท่าเรือซานมาร์โค คนเยอะจริงๆ ครับ พวกเราหาห้องน้ำเข้ากัน
ที่นี่เป็นที่ต้องของวัง Ducale อันเป็นสภาเมืองเวนิซสมัยก่อนมีศาลและคุกที่เคยขังคาสโนว่านักรักชื่อดัง และเชื่อไหมว่า คาสโนว่าแหกคุก
มี่นี่ได้ครับ เวนิซเคยโดนพระเจ้านโปเลียนมายึดและได้ขนม้าสัมฤทธิ์อันเลื่องชื่อขนาดเท่าตัวจริงจากโบสถ์ที่นี่ไปฝรั้งเศส หลังจากนโปเลียน
ตกกระป๋องก็ต้องส่งกลับคืนมาให้ที่นี่ครับ ม้าสี่ตัวนี้เดิมตั้งอยู่ที่มุขหน้าโบสถ์ปัจจุบันย้ายไปอยู่ข้างในเก็บตังค์ค่าดูด้วย และเอาตัวจำลองมา
หอระฆังที่ซานมาร์โค

ตั้งแทน พวกเราต่อคิวเข้าไปชมโบสถ์ ข้างในสวยดีมีเซรามิกทองเงินสวยงามมากแต่ที่สวย
ๆ เขาล้อมรั้วเก็บเงินเฉยเลยครับ (ค่าเข้าโบสถ์ฟรีจ้า) เราเต็มอิ่มกับของเก่าและไม่ได้นับถือ
คริสต์จึงไม่เสียเงิน ออกมาหน้าโบสถ์จะเห็นหอนาฬิกาสูง หอนี้สร้างใหม่เมื่อต้นศตวรรษ
20 เองครับ ของเดิมถล่มไปแล้ว ของที่ลานนี้แพงมากควรหิ้วเสบียงมากินกันเอง มีนกพิ
ลาปให้เลี้ยงที่น่าสนใจต้องดูวิธีที่เขากันนกไม่ให้ไปเกาะไปอยู่ตามเหลือบตามซอกอาคาร
แถวนี้ สักพักเราก็กลับที่พัก ผมได้ซุปเปอร์เล็กๆ ใกล้โรงแรมไว้ซื้อไวน์และกับแกล้ม ส่วน
เย็นนี้เราก็หาอาหารจีนกินอีกแล้วครับท่าน

โบสถ์และลานซานมาร์โคสวยแต่ของแพง
ด้านหลังเป็นทางเดินไปคุกครับ

©2004 Taksin Watcharawitayakul All right reserved. Term of use.