กลับบ้านคุณทักษิณ

ก่อนเดินทาง/ข้อควรรู้

เดินเที่ยวในโรม
มิลานเมืองแฟชั่น
ถึงเวนิซ
Murano และ Rialto
ติดต่อทักษิณจ้า
Rome เมืองในฝัน สวรรค์นักท่องเที่ยว แหล่งทำมาหากินของมิจฉาชีพ

Vatican City นครหลวงของคริสต์จักร ความศรัทธาของมนุษย์ผ่านงานศิลปะน่าทึ่ง

วันที่สองในอิตาลีและกรุงโรมเราลงมาทานข้าวเช้าของโรงแรม เพื่อนๆ ที่เคยไป
พักโรงแรมในยุโรปคงทราบดีว่าอาหารเช้าที่โรงแรมจัดให้จะมีแค่ขนมปังกับกา
แฟหรือนมเท่านั้น ท่านที่คุ้นเคยกับอาหารเช้าในโรงแรมเมืองไทยหรือแถวๆ นี้
อย่าแปลกใจน่ะครับ มีชาวเอเชียจากนิวยอร์คเดินมาถามผมว่ามีแค่นี้เองหรือ ผม
ก็บอกว่าประเทศแถวนี้อาหารเช้าในโรงแรมมีแค่นี้แหล่ะครับ แต่ไม่เป็นปัญหา
สำหรับพวกเด็กๆ เพราะเจ้าสองคนนี้ชอบทานขนมปังดูจะกินจุมากกว่าทานข้าว
ที่บ้านเสียอีก วันนี้ผมต้องย้ายโรงแรมครับเพราะมันไม่ยืนราคาในวันศุกร์ราคา
แพงขึ้น Taxi ในโรมทางโรงแรมโทรเรียกมาซึ่งเขาจะกดมิเตอร์ตั้งแต่โทร
เลยน่ะครับ มาถึงโรงแรมใหม่แถวแทร์มินี่ก็ห้าร้อยกว่าบาทรวมทิปแล้วครับ ที่
นี่ประเพณีการทิปเป็นเรื่องจำเป็นครับ โรงแรมใหม่ดูหน้าตาดีแต่พอเข้าห้องพัก
ก็นึกถึงโรงแรมต่างจังหวัดบ้านเราเลยครับ เราพักชั้น 3 ไม่มีลิฟท์ ลากกระเป๋า
กันเหนื่อยกันไปเลยครับ พอออกจากโรงแรม เราก็ออกเที่ยวสิบโมงกว่าแล้วครับ
เราไปวาติกัน นั่งรถไฟใต้ดินไปลงสถานี Ottaviano แล้วก็เดินกันตามคนไป
บูมกับอาหารเช้าในโรงแรม
รถ Scooter พาหนะยอดนิยมในอิตาลี

ถนนแถวนี้รถวิ่งไม่มากทำให้ผมสังเกตุแล้วถึงบางอ้อ เพิ่งนึกออกว่าอิตาลีเป็น
แหล่งกำเหนิดของ Scootet ที่เราเรียกว่าเวสป้าซึ่งมีวิ่งกันเต็มไปหมดครับ
ตามถนนจะจอดกันเยอะมากกว่ามอเตอร์ไซด์บ้านเราอีก เวสป้าเป็นพาหนะราคา
ถูกและนิยมกันมาตั้งแต่ปีที่ออกจำหน่ายในปี ค.ศ.1946 จนทุกวันนี้พวกชอป
เปอร์อย่ามาแหย่มแถวนี้ครับ มอเตอร์ไซด์ญี่ปุ่นที่นิยมในบ้านเราก็ต้องเป็นหน้า
ตาแบบ Scooter กันหมดครับ

เราเดินไปตามป้ายไปSan Pietro แล้วก็มาถึงโดยไม่รู้ตัวครับ
เพราะเห็นแถวคนผมก็ไม่สงสัยอะไรยืนถ่ายรูปกันไปมามองโบสถ์
คุ้นๆ พอดูคู่มืออ้าวนี่โบสถ์ St. Peter นี่นา มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่
หว่า พวกเราก็มาเข้าแถวกับพวกนักท่องเที่ยวเห็นแถวยาวเหยียด
แต่ไม่นานครับไม่ถึงครึ่งชั่วโมงยืนคุยกันไปอากาศหนาวๆ เดี๋ยว
เดียวก็ถึงคิวตรวจกระเป๋า

San Pietro หน้าวิหาร St Peter
พวกเราเข้าไปในวิหาร St Peter เป็นครั้งแรกที่
พวกเด็กได ้มาเที่ยวในโบสถ์ใหญ่ๆ ร้องโอ้โหกัน
ลั่นเลยครับ โบสถ์นี้เป็นที่ฝั่งศพนักบุญ St Peter
ซึ่งเสียชีวิตในปี คศ.64 ตัวโบสถ์กลับถูกสร้างใน
ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15 มาเสร็จแถวปี 1626
ซึ่งเป็นช่วงที่ ไมเคิลแองเจลโล กำลังดังครับ
มันพูดไม่ถูกจริงครับเพราะถ้าอยากเห็นความ
เจริญสุดขีดของศิลปแบบ Renaissance ก็
ต้องมาดูที่นี่ครับ ที่พลาดไม่ได้คือรูปแกะสลักจาก
หินอ่อนเป็นพระแม่มารีอุ้มร่างไร้วิญญาณของ
พระเยซูเห็นแล้วโอ้โห เหมือนไมเคิล แองเจลโล
ทำให้หินอ่อนทั้งก้อนกลายเป็นสิ่งมีชีวิตขึ้นมาได้
เดิมตั้งให้ดูกันใกล้ชิดแต่ในปี ค.ศ.1972 มีไอ้ขี้
เมามาเคาะนิ้วหักเขาเลยย้ายรูปแกะสลักนี้ไปอยู่
Michelangelo's Pieta
พิพิธภัณฑ์ Vatican ห้ามพลาดน่ะครับ

ใครที่ชื่นชมงานศิลปะระดับโลกให้ยืนชื่น
ชมให้นานถ่ายรูปให้เต็มอิ่ม เพราะในที่อื่น
เขามักจะห้ามถ่ายรูปกันครับ David ที่
ฟลอเร้นซ์ก็มีความงดงามเท่าเทียมกันแต่
นั่นค่าดูหัวละสามร้อยกว่าบาทน่ะครับ เรา
เดินออกจาก St Peter โดยไม่ขึ้นยอย
หลังคาซึ่งถือเป็นข้อผิดพลาดของเราใน
การเที่ยวนัดนี้ ใครไปทีหลังแวะดูเผื่อด้วย
น่ะครับ

ในแผนที่เห็นตัวพิพิธภัณฑ์และ Sistine
Chapel อยู่ติดๆ กันแต่ทางเข้าอยู่คนล่ะ
ทางต้องเดินย้อนกลับมา เราหาข้าวเที่ยง

มัมมี่ของแท้แน่นอน ในห้องอียิปต์
อีกเหตุผลของการมาเยือนพิพิธภัณฑ์
ภานบนเพดานใน Sistine Chapel

ทานกันอิ่มท้องแล้วเราก็เดิน
ต่อไปพิพิธภัณฑ์ ค่าผ่านคน
ล่ะ 12ยูโร เด็กเข้าฟรี ส่วน
แรกจะเป็นรูปปั้นรูปแกะ
เหตุผลของการเข้าที่นี่สำ
หรับผมคือส่วนอียิปต์และ
ห้อง Raphael และสุด
ยอดที่สุดคือ Sistine
Chapel ผมบอกเลยครับ
ว่าคุ้มค่ามากครับ Sistine
Chapel จะมีภาพวาดของ
ไมเคิล แองเจลโล่ บนเพดาน

ภายใน Sistine Chapel
และกำแพงด้านหน้า ส่วน
กำแพงอื่นๆ เป็นของศิลปิน
อ ีกหลายท่าน ไมเคิลเงย
หน้าวาดภาพเพดาน อยู่ 4
ปี (1508-12) ได้ข่าวว่า
พองานเสร็จก็เพี้ยนไปพัก
ใหญ่เหมือนกัน เราดูของ
เก่าๆ จนเลี่ยนกันทั่วหน้า
พอผ่าน Sistine Cha
pel ออกมาก็จ้ำอ้าวกลับ
แทร์มินี่ ผมมาซื้อตั๋วรถ
ไฟFlexi Card ชั้น 1
นั่งได้ 4วัน วันไหนก็ได้
สี่ใบ สองหมื่นหกพันบาท
ข้างแทร์มินี่มีร้านอาหาร
จีนอร่อยและถูกครับ
Last Judgment

©2004 Taksin Watcharawitayakul All right reserved. Term of use.