กลับบ้านคุณทักษิณ

ก่อนเดินทาง/ข้อควรรู้

บันไดสเปน, น้ำพุเทรวี, วิหารพาเธนอนและ Piazza Navona

วันที่สามในโรม วันนี้ผมพบว่าโทรศัพท์มือถือผมหายซึ่งเป็นบทเรียนสำหรับการมาเที่ยวใน
ช่วงที่มีการตรวจค้นเข้มงวดเพราะเราล้วงต้องควักของเข้าออกเข้าออกหลายรอบทำให้ผม
น่าจะหลงลืมแถววาติกัน ผมนิสัยไม่ดีตรงเอาของติดตัวจุกจิกมากเกินไปทั้งกล้องถ่ายรูป กล้อง
วิดีโอ ปาล์ม แล้วยังโทรมือถือ ตัวเล็กตัวน้อยเต็มตัวไปหมดพอเจอคนมากๆ ยุ่งๆ ก็เลยเอาเจ้า
P800 ไปทิ้งไว้ไหนก็ไม่รู้ ผมตื่นเช้านั่งรถไปวาติกันหาไม่เจอก็กลับมาโรงแรมกว่าจะออกมา
ก็สิบโมงกว่าแล้ว ผมซื้อการ์ดโฟนโทรกลับเมืองไทยเขาว่าถูกกว่าปรกติ ก็โทรมาอายัดมือถือ
ครับ

วันนี้เราเริ่มต้นที่บันไดสเปน นั่งรถใต้ดินมาที่สถานี Spagna เดินขึ้นออกจากซอกตึกก็เจอ
บันไดสเปน ซึ่งเป็นย่านชอปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดในโรม โดยปรกติในหน้าร้อนจะมีนักท่อง
เที่ยวจอแจตลอด เดิมในช่วงศตวรรษที่ 18-19 แถวนี้เป็นย่านใจกลางเมือง ตัวบันไดถูก

สร้างในปี ค.ศ.1720 พวกเราเดินขึ้นไปตามบันไดจนถึงข้างบนก็เห็นวิวกรุงโรมรอบด้าน พอ
ลงมาตรงตีนบันไดก็จะเห็นน้ำพุเรือซึ่งเห็นนักท่องเที่ยวถ่ายรูปกัน เราก็ต่อคิวกับเขาด้วย

อากาศช่วงที่เรามาจะไม่เกิน 18เซลเซียสซึ่งปรกติจะต่ำกว่านี้ ผมเอาเสื้อหนาวผิดตัวไป ผม
เช็คพยากรณ์อากาศในเวบไซท์แล้วยังพลาดได้เลยทำให้ผมหนาวตลอดวันเลยครับ เราเดิน
ต่อกัน ไม่ทันเหนื่อยได้ยินเสียงน้ำเบาๆ ใกล้ไม่หนักแน่นรุนแรงเหมือนเหวนรกที่เขาใหญ่แต่
พอเลี้ยวมุมอาคารน้ำพุเทรวีก็โผล่มาอยู่ตรงหน้าเรา คนมากมายอยู่ตรงน้ำพุ เป็นธรรมเนียม
ครับที่จะต้องถือเหรียญหันหลังให้น้ำพุอธิษฐานแล้วโยนเหรียญไปทางข้างหลังลงน้ำพุเพื่อ
ที่จะได้กลับมาเยือนโรมอีก แต่ผมไม่ค่อยชอบโรมเลยไม่ทำครับ พวกเด็กสองคนยังเด็กอยู่
ก็อธิษฐานกันแบมยกมือไหว้เหมือนไหว้พระที่บ้านเราเลย ผมโชคดีล้วงเจอเหรียญบาทเลย
ไม่ต้องโยนเงินยูโรทิ้งน้ำกับเขา

น้ำพุเทรวี สร้างเสร็จในปี ค.ศ.1762 เป็นน้ำพุที่ใหญ่และมีชื่อที่สุดในกรุงโรม ตรงกลางเป็น
รูปเทพเนปจูน ถัดลงมาจะเป็นยักษ์ 2 ตนกำลังพยายามควบคุมม้าทะเล ตัวหนึ่งพยศมาก ตัว
หนึ่งเชื่องอันแสดงถึงความหมายของทะเลที่เดาใจไม่ออก

เราเริ่มเดินกันต่อก็เริ่มปวดฉี่กันแล้ว ผมจึงพาเด็กไปลองเข้าร้านกาแฟทาน expresso ไป
0.68ยูโร ก็ประมาณสามสิบบาท อันนี้ถูกกว่าเมืองไทยครับให้เด็กทานไอสครีมแล้วก็ฉี่กัน
เรานั่งพักในร้านกาแฟ ในอิตาลีจะมีร้านกาแฟและขายขนมอยู่มากมายและอีกอย่าง ร้านพวก
นี้ส่วนใหญ่จะมีพวกพิซ่าหรือขนมปังแบบอิตาลีวางขายกันอาจจะมีซุปมีไวน์ขายเป็นแก้วผม
พบว่าร้านที่เป็นรูปแบบนี้ราคาถูกที่สุดครับ รสชาดก็เป็นแบบอิตาลีแท้ๆ การสั่งอาหารอย่าง
เดียวไม่ได้รับอนุญาตให้นั่งในร้านน่ะครับ ต้องสั่งเครื่องดื่มด้วย อันนี้ผมงงครับถ้าเราสั่ง
เครื่องดื่มอย่างเดียวก็จะนั่งในร้านเขาได้เหมือนกัน

วิหาร Pantheon เป็นวิหารของพระเจ้าทุก
พระองค์เป็นอาคารที่เก่าและสมบูรณ์ที่สุดใน
โรมสร้างตั้งแต่ 27-25ปีก่อนคริสต์กาล ข้าง
ในสวยงามมาก ที่แปลกคือตรงกลางมีช่อง
กลมๆ ให้แสงอาทิตย์ส่องผ่านฝนตกก็ลงมา
ในวิหารเลยครับมีรูระบายน้ำบนพื้นด้วย และ
มุมของแสงที่ส่องลงมาใช้บอกเวลาในสมัย
ก่อนด้วย ผมว่าที่นี่พลาดไม่ได้เลยครับ

เที่ยงแล้วเราก็ทานมื้อเที่ยงกันที่Mcdo-
nald ตรงลานหน้าวิหารเลยครับ ตามเคย

จากนั้นก็ลุยเที่ยววาติกันเหมือนเราเมื่อวานได้เลยครับน่าจะทันแต่ต้องใส่รองเท้าและวอร์มร่าง
กายดีๆ น่ะครับ

วันนี้เราเที่ยวกันเดินกันสนุกมากผมว่าการมากรุงโรมดูอะไรเก่าๆ ดูกันได้แค่นี้ก็น่าจะพอดีกว่า
ของเก่าๆ ที่นี่มีมากจริงเราต้องเลือกดูกัน เพราะถ้าจะดูกันให้ครบตามหนังสือท่องเที่ยวแนะ
นำผมคร่าวๆ ว่าต้องอยู่กันต่ออีกสักสองวัน เราก็นั่งรถเมล์กลับมาแทร์มินี่ย่านที่พักที่เราเริ่มจะ
คุ้นเคยแล้ว ร้านอาหารจีนที่ผมว่าอร่อยถ้าจากสถานีรถประจำทางหันหน้าเข้าหาแทร์มินี่ก็จะ
เห็นว่าด้านขวามือนั้นเป็นที่เดินชอปปิ้งมีร้านค้า ด้านนี้แหล่ะครับเดินข้ามถนนจากแทร์มินี่
มองหาร้านอาหารจีน ผมอยู่อิตาลีต่ออีกหลายวันร้านนี้อร่อยที่สุดครับ ถ้ามาโรมอย่าลืมครับ
ผัดหมี่และผัดผักผัดเต้าหู้อร่อยมาก ส่วนปลาและของทะเลที่ผมเข้าใจว่าไม่น่าจะแพงเพราะ
อิตาลีมีชื่อเรื่องนี้เหมือนกันแต่ก็ผิดหวังครับเพราะแพงมากๆ ก็เลยต้องเว้นกันไป

เราจบการเที่ยวเมืองโรมกัน โดยมีประสบการณ์ดีบ้างไม่ดีบ้าง อีกเรื่องที่ฝากไว้คือก่อนเข้าพัก
ในโรงแรมต้องตรวจเช็คข้าวของในห้องพักว่ามีอะไรแตกหักบ้างเพราะอาจจะโดนหักเงินใน
ตอนเช็คเอ้าท์เหมือนผมได้ การมาเยือนโรมนั้นสำหรับผมโดยรวมแล้วผมไม่ประทับใจเท่าไหร่
อาจเป็นเพราะว่าต้องคอยระวังเรื่องโดนหลอกต้มตุ๋น ข้าวของราคาแพงที่ผมอาจจะยังไม่คุ้น
เพราะเพิ่งเดินทางมาถึง และห้องน้ำที่หายากหาได้ก็เก็บเงินแพง ถ้าต้องซื้อกาแฟซื้อไอสครีม
ก่อนมันก็ค้านความรู้สึกที่ว่าเราปวดฉี่อยู่แล้วยังให้มากินน้ำ กินของเย็นๆ อีก สิ่งที่ดีที่สุดของ
โรมก็คือพวกโบราณสถานที่มีมากมายจนทำให้เหมือนโรมเป็นพิพิธภัณฑ์ไปกันทั้งเมือง เรื่อง
นี้ต้องยอมรับเลยครับว่าอารยธรรมที่ถัดจากอียิปต์คือพวกโรมันซึ่งกรุงโรมมีความต่อเนื่องมา
ตลอดสองพันกว่าปีโดยไม่เคยร้างผู้คนและโดนทำลายล้าง เลยทำให้ของเก่าๆ ที่นี่ทั้งเก่าทั้ง
สมบูรณ์ ซึ่งถ้ามีโอกาสได้ไปเยือนสักครั้งก็นับเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ไม่น่าพลาด
ครับ