นำแสดง อนุชิต สพันธุ์พงษ์, อาระตี ตันมหาพราน, อดุลย์ ดุลยรัตน์, พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง, ชุมพร เทพพิทักษ์,
สมภพ เบญจาธิกูล, สุเมธ องอาจ
กำกับการแสดง

อิทธิสุนทร วิชัยลักษณ์

จัดจำหน่ายโดย สหมงคลฟิล์ม

ปี 2546 เป็นปีแห่งโศกนาฏกรรมของหนังไทย หนังเรียงแถวกันออกมาเจ๊งกันถ้วนหน้า เหลือไว้ทำยา
อยู่หนึ่งเรื่องก็คือเรื่องแฟนฉัน หนังรำลึกความหลังยุคเพลงสตริงเพิ่งแจ้งเกิด จับตลาดในทุกวัยตั้งแต่
เด็กยังคนผมหงอก ก็เลยหนีรอดคำว่าขาดทุนไปได้อย่างสบาย การสร้างหนังมาฉายสมัยนี้ต้องมีครบ
ทั้งเนื้อหา บทภาพยนต์ ฝีมือผู้กำกับ นักแสดงและสุดท้ายคือการทำตลาด หนังไทยหลายเรื่องหลงกับ
การตลาดเหมือนหลอกคนไปดูแต่แล้วงานไม่ถึงก็ทำเอาคนดูเข็ดกันสุดท้ายหนังไทยเลยทำท่าจะตาย
ทั้งหมู่บ้านอีกแล้ว แต่แปลกน่ะครับไอ้หนังฝรั่งแย่ๆ ก็มีมากมายแต่เราก็ยังเลือกดูกันได้ดูคงเป็น
เพราะพอจะคาดเดาได้ว่าหนังดีหรือไม่ดีจากตารางบ็อกซ์ออฟฟิศในต่างประเทศกระมัง

อิทธิสุนทรผู้กำกับ

และแล้วในต้นปี 2547 นี้เองก็เกิดปรากฎการณ์อันน่าชื่นใจในวงการหนังไทย
ที่ค่อยๆ แรงขึ้นคือ "ไปดูโหมโรงมาแล้วหรือยัง" เป็นคำทักทายที่ได้ฟังกันทั่วไป
หนังที่มีโรงเข้าจำกัดมีคนชมน้อยในตอนต้น ได้รับกระแสวิจารณ์โดยทั่วไปจาก
สื่อทุกสาขาและทุกแนวไม่ว่าจะเนชั่น, หม่อมถนัดศรี, ดร.เสรีและอีกหลายท่าน
ที่พร้อมใจกันเชียร์ ความดีของหนังทำให้ได้โรงและรอบฉายเพิ่มในวันที่กำหนด
ให้ถอดหนังออกจากโรง (ฮือน่าตื่นเต้นเหมือนหนังเลย) เพราะกระแสจากผู้ชม
นี่เองที่ช่วยต่อลมหายใจให้หนังเรื่องนี้

หนังเดินเรื่องแบบสลับเหตุการณ์ระหว่างศรวัยหนุ่มและวัยชราที่แสดง
ให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างการก้าวขึ้นสู่ยอดฝีมือทางระนาดเอก
ในยุคที่ดนตรีไทยเฟื่องฟู กับศรวัยชราที่ต้องประคับประคองดนตรีไทย
ให้อยู่รอดในยุคที่ต้องเชื่อท่านผู้นำพาชาติเจริญ ที่เห็นดนตรีไทยเป็น
ตัวถ่วงการพัฒนาไปสู่อารยประเทศ

อดุลย์กับบทศรยามชรา

ศรวัยหนุ่มโลดแล่นในโลกของดนตรีไทยอย่างน่าตื่นเต้น ดนตรีไทยที่หลายคนคิดว่าน่าเบื่อผมว่าที่
จริงแล้วดนตรีไทยในโหมโรงดูน่าตื่นเต้นเล้าใจที่สุดในโลกภาพยนตร์ที่มีการสร้างหนังเกี่ยวกับดน
ตรีมาเลยทีเดียวหล่ะ ถ้าเคยดูหนังจีนที่จอมยุทธดีดพิณแล้วแผ่นดินกระจายต้มคนดูแล้ว โหมโรง
กลับให้ความรู้สึกถึงความรุนแรงในการประลองดนตรีโดยใช้เครื่องดนตรีที่แท้ได้อย่างเร้าใจมาก
กว่ามากนัก ความหนักแน่นรุนแรงที่ศรเล่นในตอนต้นสร้างความพ่ายแพ้ครั้งแรกกับศรอย่างหมด
รูป แนวทางใหม่ของระนาดที่ศรค้นพบเองสร้างความเร้าใจแก่ผู้ฟังขณะเดียวกันก็เกิดแรงต่อต้าน
ด้วย แต่ดนตรีที่แท้ไม่ขึ้นกับรูปแบบที่เล่น การถ่ายทอดอารมณ์จากเครื่องดนตรีให้เข้าถึงใจผู้ฟัง

ย่อมเป็นแกนที่แท้ของดนตรี เสียงซอที่ศรเล่นตอนครั้งแรกที่พบแม่โชตินางเอกของเรื่องทำให้
เรารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้สวยกว่าที่เห็นมากนักเพราะเสียงซอแสนหวานที่คอยคลออยู่นั่นเอง

ศรวัยชราได้รับการนับหน้าถือตาจากชาวบ้าน มีลูกศิษย์ลูกหามากมายต้องประคับประคองดน
ตรีไทยในช่วงที่สังคมถูกชักนำจากท่านผู้นำในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกสร้างมาสลับไป
มากับช่วงหนุ่มโดยหนังจะทิ้งปมเรื่องเดินสลับไปมาทำให้หนังดูไม่น่าเบื่อบทสรุปตอนท้าย
ที่ศรลุกขึ้นมานั่งพื้น(ท่านผู้นำห้ามนั่งพื้นด้วยน่ะซิบอกให้) ตีระนาดไล่หลังฝ่ายบ้านเมืองนั้น
พงษ์พัฒน์เล่นได้เกือบดีมากเลยครับจากแววตาที่ไม่พอใจ เสียงระนาดที่คลออยู่ทำให้แวว

ตาเปลี่ยนเป็นยอมรับ นั้นพี่ออฟเล่นได้เกือบดีเลยครับ

บทอาจารย์ดนตรีในวังนั้นดูขาดๆ เกินๆ ไปหน่อยน่าจะเป็นส่วนไม่ดีที่สุดของหนังเลยกระมัง ส่วนขุน
อินนักระนาดมือเอกน่าจะเป็นนักระนาดมืออาชีพเพราะท่านเล่นได้แข็งมากแต่เล่นระนาดได้สมจริง
มาก โหมโรงเริ่มเรื่องจนจบแต่เสียงระนาดยังก้องหูผมอยู่ ตัวเนื้อเรื่องยังวนเวียนอยู่ในสมอง หนังที่
ด ีต้องดูสนุก และให้อะไรกับคนดูบ้างเหมือนกับชีวิตศรนักดนตรีไทยที่โลดแล่นอวดฝีมือผ่านยุคสมัย
รุ่งเรืองจนตกต่ำเพียงเพราะคำว่าความศิวิไลซ์ที่ถูกตีความโดยคนที่ไม่เข้าใจความหมายที่แท้ของ
คำคำนี้